ตามนโยบายของ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์. รรท.ผบ.ตร. ,พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร. , พล.ต.ท.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร ผู้ช่วย ผบ.ตร. , พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. ให้ปราบปรามกลุ่มเครือข่ายองค์กรอาชญากรรมทางออนไลน์ ที่กระทำความผิดทุกรูปแบบ ซึ่งสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนผู้สุจริตจำนวนมาก โดย ชุดลาดตระเวนออนไลน์บก.สส.บช.น. ได้รับการร้องเรียนจากประชาชนผู้เสียหายผ่านเพจ สืบนครบาล IDMB ให้ช่วยสืบสวนติดตามจับกุมตัว นายจตุพล หรือเคน ซึ่งมีพฤติการณ์หลอกขายชุดใบจอง “ เหรียญไอ้ไข่ยอดทรัพย์ 64 วัดเจดีย์ ” ผู้เสียหายได้ทำการโอนเงินจองให้แก่ผู้ต้องหาทั้งหมด 33 ครั้ง รวมเป็นเงินทั้งสิน 479,000 บาท เมื่อถึงกำหนดรับเหรียญ ผู้เสียหายก็ไม่สามารถติดต่อ นายจตุพล หรือเคน ได้หลบหนีการจับกุมอยู่ 2 ปี
.
เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2567 พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. , พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. , พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง รอง ผบก สส.บช.น. , พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. , พ.ต.ท.นิธิ ปิยะพันธุ์ รอง ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. , สั่งการให้ พ.ต.ท.สมพงษ์ เกตุระติ สว.กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. , ร.ต.ต.ทรงศักดิ์ เจียมสกุล รอง สว.กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการที่ 5 กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. ได้ร่วมกันสืบสวนติดตามจับกุม

นายจตุพล หรือเคน อายุ 29 ปี
ที่อยู่ หมู่ 12 ตำบลเทพราช อำเภอสิชล จังหวัดนครศรีธรรมราช ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลแขวงนนทบุรี ที่ 163/2564 ลงวันที่ 21 เมษายน พ.ศ.2564
ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ ฉ้อโกงทรัพย์ ”
โดยสามารถจับกุมตัวได้ที่บริเวณปากซอยเสรีไทย 7 แยก 10 แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ กรุงเทพฯ
.
ในชั้นจับกุม นายจตุพล ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยรับว่าตนเรียนจบการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนต้น เดิมทีเปิดร้านขายไก่ทอดย่านแฟลตคลองจั่น และลาออกมาวิ่งงานบริการรับส่งอาหาร เกี่ยวกับข้อกล่าวหาตามหมายจับที่ถูกจับกุม ตนรับสารภาพว่าตนไม่สามารถจัดส่งเหรียญไอ้ไข่ยอดทรัพย์ 64 วัดเจดีย์ ให้แก่ผู้เสียหายตามที่ได้ตกลงกันไว้จริง เนื่องจากตนก็ถูกคนวงในซึ่งมีความใกล้ชิดกับทางวัดซึ่งตอนแรกติดต่อกับตนว่าสามารถหาใบจองเหรียญไอ้ไข่ยอดทรัพย์ 64 วัดเจดีย์ มาให้ตนหาคนมาจอดได้ หลอกเอาเงินจองที่ตนรับมาจากลูกค้าหลบหนีไปกว่า 500,000 บาท และอ้างว่าประกอบกับหลังเกิดเรื่อง ตนก็ขาดการติดต่อกับผู้เสียหายไป จึงอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ผู้เสียหายคิดว่าคนเป็นตัวการในการก่อเหตุในครั้งนี้ จึงไปร้องทุกข์เพื่อดำเนินคดีกับตน จนมาถูกจับกุมตัวในที่สุด
.
จากการตรวจสอบประวัติการกระทำความผิดในฐานข้อมูลสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่ผ่านมา พบว่า นายจตุพล มีประวัติเคยถูกดำเนินคดี จำนวน 6 คดี ประกอบด้วย
1) ปี 2555 เคยถูกจับกุมในความผิดฐาน “ เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1,มีไว้ในครอบครอง ซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (นอกเหนือจากแอลเอสดี หรือเมตแอมเฟตามีน) ” ท้องที่ สภ.สิชล
2) ปี 2559 เคยถูกจับกุมในความผิดฐาน “ ตัวการในข้อหาไม่มาแสดงตนเพื่อรับหมายเรียกที่อำเภอ เมื่ออายุย่างเข้า 21 ปี ” ท้องที่ สภ.สิชล
3) ปี 2562 เคยถูกจับกุมในความผิดฐาน “ ขับรถในขณะเมาสุราหรือของเมาอย่างอื่น ” ท้องที่ สภ.สำโรงใต้
4) ปี 2562 เคยถูกจับกุมในความผิดฐาน “ ขับรถในขณะเมาสุราหรือของเมาอย่างอื่น ” ท้องที่ สภ.สำโรงเหนือ
5) ปี 2563 เคยถูกจับกุมในความผิดฐาน “ ขับรถในขณะเมาสุราหรือของเมาอย่างอื่น ” ท้องที่ สภ.สำโรงเหนือ

จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้นำตัว นายจตุพล หรือเคน ว่องไว ผู้ต้องหาตามหมายจับ นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.ปลายบาง ภ.จว.นนทบุรี เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย
.
ด้าน พล.ต.ต.ธีรเดช กล่าวแจ้งเตือนภัยไปยังพี่น้องประชาชนว่าในสังคมปัจจุบัน มิจฉาชีพมีเล่เหลี่ยมกลโกงมากมายหลายรูปแบบ ขอให้ประชาชนได้โปรดใช้สติในการใช้ชีวิตในสังคม อย่างหลงเชื่อกลโกงต่างๆ ของมิจฉาชีพซึ่งมีอยู่มากมาย หากไม่แน่ใจ หรือสงสัยว่าบุคคลที่เข้ามาเสนอผลประโยชน์ นั้นจะเป็นมิจฉาชีพ หรือไม่ ให้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจสอบ หรือแจ้งเบาะแสการกระทำความผิด มายังเพจ “สืบสวนนครบาล IDMB” ได้ตลอด 24 ชม. แม้จะเป็นคดีที่มีความเสียหายไม่มาก แต่หากเป็นคดีที่ประชาชนเดือดร้อน เราทำทันที ตามนโยบายของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ