“ยธ.- ป.ป.ส.” ร่วมรับตัวผู้ร้ายข้ามแดน “อ่อง กิม วาห์” นักค้ายารายสำคัญ เอี่ยวคดียาเสพติดในไทย มาเลเซีย ไต้หวัน เตรียมขยายผลเครือข่ายยึดทรัพย์กว่า 4,000 ล้านบาท

วันนี้ (11 ม.ค.) ณ ศูนย์ปฏิบัติการ สำนักงาน ป.ป.ส. ดินแดง กรุงเทพฯ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พร้อม นายสมคิด เชื้อคง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง, พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการ ป.ป.ส., พล.ต.ต.ธนรัชน์ สอนกล้า ผู้บังคับการตำรวจปราบปรามยาเสพติด 2 ตำรวจสหพันธ์ออสเตรเลีย (AFP) สำนักงานปราบปรามยาเสพติดสหรัฐอเมริกา (DEA) แถลงข่าวการรับตัวผู้ร้ายข้ามแดน นายอ่อง กิม วาห์ (MR.ONG GIM WAH) นักค้ายาเสพติดข้ามชาติรายสำคัญ ที่หลบหนีหมายจับไปอาศัยอยู่ที่ สปป.ลาว เพื่อนำมาดำเนินคดีในไทย พร้อมจ่ายเงินค่าหัวจำนวน 1 ล้านบาทเป็นรางวัลนำจับให้กับรัฐบาลลาว โดย อ่อง กิม วาห์ เกี่ยวข้องกับการค้ายาเสพติดในสามเหลี่มทองมาอย่างยาวนาน มีคดียาเสพติดในไทยและมาเลเซียหลายคดี และมีทรัพย์สินที่ทางการมาเลเซียยึดเบื้องต้นไว้กว่า 418 ล้านริงกิตมาเลเซีย
ad

พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า การจับกุมตัวนักค้ายาเสพติดในครั้งนี้ ต้องขอบคุณ สปป.ลาว ที่ดำเนินการตามที่ประเทศไทยได้ร้องขอ การส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนในลักษณะเช่นนี้ เป็นสิ่งที่ประเทศไทยต้องการเพื่อทำลายเครือข่ายยาเสพติดที่ส่งกระทบในระดับนานาชาติ และไทยจะเดินหน้าสร้างความร่วมมือกับประเทศต่างๆ นอกเหนือจาก สปป.ลาว เพื่อนำนักค้ายาเสพติด ที่เป็นต้นเหตุ ทำลายสังคมทำลายเยาวชน เหล่านี้มาลงโทษ

ด้าน พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ เผยว่า ผู้ต้องหารายนี้เป็นผู้ต้องหารายสำคัญที่หลายชาติต้องการตัว โดยสำนักงาน ป.ป.ส. ได้ทำการสืบสวนติดตาม นายอ่อง กิม วาห์ มาตั้งแต่ปี 2549 มีพฤติการณ์เป็นผู้จัดหาและติดต่อประสานงานในการซื้อขายยาเสพติดจากพื้นที่สามเหลี่ยมทองคำ โดยร่วมกับเครือข่ายนักค้ายาเสพติดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทั้งชาวไทย มาเลเซีย จีน สิงคโปร์ สปป.ลาว และใช้ไทยเป็นแหล่งฟอกเงิน และใช้เป็นเส้นทางลักลอบลำเลียงยาเสพติดผ่านไปยังประเทศที่สาม เช่น มาเลเซีย ไต้หวัน ออสเตรเลีย

โดยตั้งแต่ พ.ศ. 2561 ถึงปัจจุบัน พบเกี่ยวข้องกับยาเสพติดที่ถูกจับกุมในไทย มาเลเซีย ไต้หวัน จำนวน 11 คดี ของกลางยาเสพติดรวมเป็น ไอซ์ 4.6 ตัน เฮโรอีน 496 กก. โคเคน 12 ตัน สำหรับคดีที่ นายอ่อง กิม วาห์ ถูกออกหมายจับ เกิดขึ้นเมื่อเดือน มิ.ย. 66 สำนักงาน ป.ป.ส. ร่วมกับ กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด, หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทางเรือ (SEAL) และชุดปฏิบัติการพิเศษ กองทัพเรือ กองบัญชาการกองทัพไทย และศูนย์รักษาความปลอดภัย (ศรภ.) จับกุมผู้ต้องหา 7 คน ยึดไอซ์ 998 กิโลกรัม ที่ จ.ราชบุรี

โดยในช่วงเดือน ต.ค. 66 สำนักงาน ป.ป.ส. และ หน่วยงานภาคี ได้ตรวจยึดทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับ นายอ่อง กิม วาห์ ในพื้นที่จำนวน 8 จุด (กทม. จ.ตราด จ.เชียงราย จ.ชลบุรี) ประกอบด้วย คอนโดมิเนียม 4 ห้อง ร้านอาหาร/บริษัท 1 แห่ง บ้านพักอาศัย 1 แห่ง และ ท่าเรือจอดเรือยอชต์ 2 แห่ง พร้อมยึดอายัดทรัพย์สิน อาทิเช่น ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง 1 แปลง คอนโดมิเนียม 2 ห้อง เรือยอชต์ 3 ลำ รถยนต์ 2 คัน รถจักรยานยนต์ 3 คัน สินค้าแบรนด์เนมหลายรายการ อาวุธปืนสั้น 1 กระบอก อาวุธปืนยาว 2 กระบอก เงินสดและเงินสกุลต่างประเทศ 275,000 บาท พร้อมอายัดเงินในบัญชีธนาคาร 10 บัญชี ยอดเงินคงเหลือ 1,542,080 บาท รวมมูลค่าทรัพย์สินกว่า 85 ล้านบาท และภายหลังจากที่ทางการไทยรับส่งมอบตัว นายอ่อง กิม วาห์ เพื่อมาดำเนินคดีในประเทศไทยแล้ว ในส่วนของทางการมาเลเซีย เตรียมดำเนินการต่อทรัพย์สิน ของ นายอ่อง กิม วาห์ มูลค่ากว่า 4,000 ล้านบาท

พ.ต.อ.ทวี กล่าวในตอนท้ายว่า การจับกุมในครั้งนี้เป็นสัญญาณดีที่แต่ละประเทศร่วมมือกันในการปราบปรามยาเสพติด ประเทศไทยมีความยินดีในการเป็นแกนกลางเพื่อประสานความร่วมมือเช่นนี้ในการปราบปรามยาเสพติดในภูมิภาค ขอบคุณหน่วยงานจากต่างประเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติมาเลเซีย (Narcotics Crime Investigation Department : NCID) เจ้าหน้าที่ตำรวจสหพันธ์ออสเตรเลีย (Australian Federal Police : AFP) และ สำนักงานปราบปรามยาเสพติด สหรัฐอเมริกา (Drug Enforcement Administration : DEA) ที่ร่วมสนับสนุนข้อมูลการข่าว ซึ่งไทยและหน่วยงานระดับนานาชาติ จะร่วมมือกันเพื่อขยายผลยึดทรัพย์ผู้กระทำผิด และนำผู้เกี่ยวข้องมาลงโทษให้มากที่สุด