ชาวบ้านตำบลนางั่วพร้อมชมรมศึกษาปัญหาที่สาธารณประโยชน์โคกตาดฯรวมตัวเข้ายื่นหนังสือผ่านรักษาการ ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ ย้ายนายอำเภอเมืองเพชรบูรณ์ พร้อมปลัดอำเภออาวุโส ออกจากพื้นที่และดำเนินการทางวินัย

เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 8 ตุลาคม 2567 ตัวแทนชาวบ้านตำบลนางั่วกว่า 20 คน พร้อมด้วยชมรมศึกษาปัญหาที่สาธารณประโยชน์โคกตาด ที่เลี้ยงสัตว์สาธารณะ 10,000 ไร่ นำโดยนายชูชาย บุญรอด ประธานชมรมศึกษาปัญหาที่สาธารณประโยชน์โคกตาดที่เลี้ยงสัตว์สาธารณะ 10,000 ไร่ ตำบลป่าเลา อำเภอเมืองฯ จังหวัดเพชรบูรณ์ ได้เข้ายื่นหนังสือถึงนายอนุทิน ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย โดยผ่าน นายชนก มากพันธุ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดฯ รักษาการผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ เรื่องขอให้ย้ายนายอำเภอเมืองเพชรบูรณ์ ปลัดอำเภออาวุโส ปลัดอำเภอเมืองเพชรบูรณ์ ออกจากพื้นที่และดำเนินการทางวินัย โดยมีนายธรวิวรรธน์ พันธ์เจริญ

ผู้อำนวยการกลุ่มงานศูนย์ดำรงธรรรมจังหวัดเพชรบูรณ์ พร้อมด้วยนายสิทธิชัย เจริญศิลป์ ป้องกันจังหวัดเพชรบูรณ์ เป็นผู้แทนรับหนังสือดังกล่าว

ทั้งนี้สืบเนื่องจากชาวบ้านได้ติดตามการแก้ไขปัญหาที่สาธารณประโยชน์ แปลงป่าโคกตาด ไม่เป็นไปตามระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการสอบสวนเกี่ยวกับการบุกรุกที่หรือทางสาธารณประโยชน์ พศ.2539 และ การแก้ไขปัญหาการบุกรุกที่สาธารณประโยชน์ แปลงอื่นๆ อาทิ -ที่สาธารณประโยชน์ แปลงโคกหนองแห้ว ยื่นขอรังวัดที่สาธารณประโยชน์แปลงโคกหนองแห้วเพื่อขอออกหนังสือสำคัญสำหรับที่หลวง ปีเศษแล้ว ยังไม่มีความคืบหน้า -ที่สาธารณประโยชน์ แปลงโคกหนองตะคอง จัดทำโครงการ คทช. มีข้อสงสัยว่า ดำเนินการชอบด้วยระเบียบและกฎหมาย ตามขั้นตอน เงื่อนไขต่างๆที่คณะกรรมการจัดที่ดินแห่งชาติกำหนด อาทิ การจัดทำประชาคม คุณสมบัติของผู้ร่วมโครงการ กระบวนการดำเนินการ ฯลฯ เรื่องที่สาธารณประโยชน์แปลงโคกระรวย และที่สาธารณประโยชน์แปลงโคกป่าช้า ยังไม่มีการดำเนินการใดๆ และการเลือกแปลงที่สาธารณประโยชน์ มาแก้ไขปัญหาใช้หลักเกณฑ์อะไร

การไม่ดำเนินการร้องทุกข์กล่าวโทษดำเนินคดีกับผู้บุกรุกที่สาธารณประโยชน์แปลงอื่นๆ ในลักษณะเดียวกันกับผู้บุกรุกที่สาธารณประโยชน์แปลงป่าโคกตาด 43 ราย และมีคู่สมรสของปลัดอำเภอเมืองเพชรบูรณ์ เกี่ยวข้องกับการบุกรุกยึดครองที่ราชพัสดุ หน้าที่ว่าการอำเภอเมืองเพชรบูรณ์ประกอบการค้าโดยไม่ได้รับอนุญาตจากธนารักษ์พื้นที่เพชรบูรณ์ ต่อมาถูกเรียกเก็บค่าเช่ารวมดอกเบี้ยเป็นค่าปรับ จำนวนเงิน 7 แสนบาทเศษ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบการเสียภาษีเงินได้ครบถ้วนถูกต้องหรือไม่ ดังนั้นทั้งหมดที่กล่าว เพื่อความโปร่งใสและเป็นธรรม ควรย้ายผู้เกี่ยวข้องออกนอกเขตพื้นที่จังหวัดเพชรบูรณ์ จะได้ไม่มีอำนาจ จะได้ไม่ยุ่งเกี่ยวกับพยานหลักฐาน ในการดำเนินการดังกล่าว

ข่าว //ชุลีพร ตาลสุข  0810439518