ผู้ว่าฯเพชรบูรณ์ สั่งการนายอำเภอและท้องถิ่น ป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5)

นายศรัณยู มีทองคำ ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ เปิดเผยว่า ด้วยปัจจุบันสถานการณ์จุดความร้อน (Hotspot) จังหวัดเพชรบูรณ์ เพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมากและยังมีแนวโน้มสูงขึ้น โดยมีจุดความร้อนสะสม(Hotspot) อยู่ในลำดับที่ ๓ ของ ๑๗ จังหวัดภาคเหนือ โดยเฉพาะพื้นที่การเกษตร และ เขต สปก. ซึ่งจุดความร้อนสะสมดังกล่าว ส่งผลให้ค่าคุณภาพอากาศปริมาณ

ฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) เกินค่ามาตรฐาน ๓๗.๕ ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร อยู่ในระดับ “เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ” ตั้งแต่วันที่ ๔ มกราคม ๒๕๖๘ เป็นต้นมา และมีแนวโน้มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นอันตรายต่อสุขภาพของประชาชน และส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ สังคม การคมนาคม และการท่องเที่ยวสาเหตุเกิดจากการเผาป่า เพื่อเก็บหาของป่า ล่าสัตว์ และที่สำคัญคือเกิดจากการเผาวัชพืชทางการเกษตร เพื่อเตรียมพื้นที่เพาะปลูกของเกษตรกร โดยไม่มีการควบคุม

เพื่อให้การป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) จังหวัดเพชรบูรณ์ เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ จุดความร้อน (Hotspot) ลดลง และให้ค่าดัชนีคุณภาพอากาศดีขึ้นเพื่อให้การป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5)เพชรบูรณ์ เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ จึงขอให้อำเภอปล่อยแถวชุดปฏิบัติการอำเภอลงพื้นที่ กวดขันเข้มงวดการเผาทุกชนิด กำชับ และเน้นย้ำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่จัดชุดลาดตระเวน ตรวจสอบและเข้าสนับสนุนการดับไฟในพื้นที่ เพื่อลดจุดความร้อน (Hotspot) และรายงานผลการดำเนินงานผ่านไลน์กลุ่ม “ไฟป่าหมอกควัน จ.พช.” ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ดำเนินการฉีดล้างทำความสะอาดถนน เพิ่มความขึ้นและลด หมอกควันในชั้นอากาศ และให้ค่าดัชนีคุณภาพอากาศดีขึ้น พร้อมรายงานผลการดำเนินงานผ่านไลน์กลุ่ม”ไฟป่าหมอกควัน จ.พช.”ต่อไป