พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รรท. ผบ.ตร. พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร. ให้ปราบปรามกลุ่มเครือข่ายองค์กรอาชญากรรมที่กระทำความผิดสร้างความเดือดร้อนในช่วงเทศกาลสงกรานต์เพื่อป้องกันและปราบปรามไม่ให้เกิดเหตุรุนแรง สืบ นครบาลกวาดล้างผู้ต้องหาที่ใช้อาวุธก่อเหตุสร้างความเดือดร้อนให้กับสังคม โดยไล่ล่าแฟรงค์ได้ชักปืน ลั่นไกใส่ผู้เสียหาย จำนวน 1 นัด ในขณะที่ผู้เสียหายอุ้มลูกตัวน้อยอายุเพียง 5 ขวบ
เมื่อวันที่ 9 เมษายน 2567 พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. , พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. ได้สั่งการ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น., พ.ต.อ.นิวัฒน์ พึ่งอุทัยศรี , พ.ต.อ.อิสเรศ ปาลาพงศ์ รอง ผบก.สส.ฯ, พ.ต.อ.อรรชวศิษฏ์ ศรีบุณยมานนทน์ ผกก.สส.3 บก.สส.บช.น., พ.ต.ท.วิโรฒ จนุบุษย์ และ พ.ต.ท.นิธิ ปิยะพันธุ์ รอง ผกก.สส.3ฯ และ พ.ต.ท.รณฤทธิ์ กิตติมาศ สว.กก.สส.3ฯได้สั่งการให้ ร.ต.อ.ปณวัฒน์ จอกสุวรรณ์ และ ร.ต.อ.ปิ่น มหถาวร รอง สว.กก.สส.3 บก.สส.บช.น. พร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.3 บก.สส.บช.น (ชุดปฏิบัติการที่ 3/4 ) ได้ร่วมกันจับกุมตัว
นายอดิเรก หรือแฟรงค์ อายุ 28 ปีที่อยู่ หมู่ที่ 1 ตำบลบึงยี่โถ อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานีตามหมายจับศาลจังหวัดธัญบุรีที่ จ.241/2567 (สภ.ธัญบุรี จว.ปทุมธานี )
ซึ่งต้องหาว่ากระทำผิดฐาน “พยายามฆ่าผู้อื่น, บุกรุกเคหสานโดยใช้กำลังประทุษร้ายโดยมีอาวุธและในเวลากลางคืน, ยิงปืนโดยใช่เหตุในเมือง หมู่บ้าน หรือที่ชุมนุม, มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต”
สถานที่จับกุม ห้องนอนชั้น 2 ม.1 ต.บึงยี่โถ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี
นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.ธัญบุรี จว.ปทุมธานี เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
พฤติการณ์แห่งคดี : รวบ “แฟรงค์บ้านบึง” หมายจับคดีพยายามฆ่า กับประโยคท้าทายผู้เสียหายว่า “กูแฟรงค์ มึงมาเลย ปืนมึงกระจอก ”
ด้วยเมื่อวันที่ 4 ก.พ. 67 เวลาประมาณ 01.20 น. ขณะที่ผู้เสียหายอุ้มลูกอยู่ภายในบ้าน ม.1 ต.บึงยึ่โถ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี ( ที่เกิดเหตุ ) อยู่นั้นได้มี ผู้ต้องหาคือนายอดิเรก หรือแฟรงค์ พร้อมกับกลุ่มเพื่อนขับขี่รถจักรยานยนต์มาที่หน้าบ้านผู้เสียหาย แล้ววิ่งเข้ามาภายในบ้าน พร้อมตะโกนใส่ผู้เสียหายว่า ” กูแฟรงค์ มึงมาเลย ปืนมืงกระจอก ” เมื่อสิ้นเสียงตะโกน ไอแฟรงค์ได้ชักปืน ลั่นไกใส่ผู้เสียหาย จำนวน 1 นัด ในขณะที่ผู้เสียหายอุ้มลูกตัวน้อยอายุเพียง 5 ขวบ สร้างความตกใจและสร้างความหวาดกลัวให้กับบุคคลภายในบ้านเป็นอย่างมาก จากนั้นผู้เสียหายได้รีบพาลูกทั้ง 2 คน วิ่งหลบหนีเข้าไปภายในบ้าน พร้อมกับปิดไฟบ้านเพื่ออำพรางตัวเอง
ไอแฟรงค์ ไม่พอใจรู้ว่ายิงไม่โดน เลยวิ่งตามเข้าไปจะยิงซ้ำหมายเอาชีวิต แต่ปรากฎว่าหาผู้เสียหายและลูกๆ ไม่เจอ จึงได้รีบหลบหนีออกจากบ้านแล้วขับขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไป
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนนครบาล จับกุมตัว ไอแฟรงค์ ผู้ก่อเหตุได้ โดยจากการสอบถามให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา แต่แจ้งกับตำรวจว่าเป็นคนที่ใช้อาวุธปืนยิงจริง แต่ยิงขึ้นฟ้าเพื่อข่มขู่มผู้เสียหาย เนื่องจาก ก่อนจะมาก่อเหตุ ไอแฟรงค์ ถูกบุคคลไม่ทราบว่าเป็นผู้ใด ใช้ปืนยิงใส่ไอแฟรงค์ กระสุนโดนบริเวณหน้าอกข้างขวาของไอแฟรงค์แต่ไม่ตาย จึงคิดว่าผู้เสียหายเป็นคู่กรณี จึงคิดจะแก้แค้นคืน ส่วนจากการสอบถามหาอาวุธปืนของกลาง ทราบว่าเป็นปืนแบงค์กันที่ซื้อมาเมื่อ 7 ปีก่อน หลังก่อเหตุเอาไปโยนน้ำแถวเรียบคลองลำลูกกาหน้าบ้านพักของตนเอง เนื่องจากกลัวว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจะติดตามมาจับกุมตนเองได้ในภายหลัง
พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. กล่าวว่า
เข้าใจใส่ความรักของพ่อแม่ แต่ตำรวจต้องทำตามหน้าที่ ผิดถูกอย่างไรไปว่ากันชั้นศาล