จากนโยบาย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รรท.ผบ.ตร. , พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร. , พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร. ,พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. ให้เร่งรัดปราบปรามอาชญากรรมที่สร้างความเดือดร้อนให้แก่ประชาชน โดยปัจจุบันสถิติอาชญากรรมที่มีการใช้นำอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืนก่อเหตุอาชญากรรม มีเป็นจำนวนมาก
.
เมื่อวันที่ 10 พ.ค.67 พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. , พล.ต.ต.วสันต์ เตชะอัครเกษม รอง ผบช.น. , พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น , พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ สระทองออย ,พ.ต.อ.นิวัฒน์ พึ่งอุทัยศรี รอง ผบก สส.บช.น. พ.ต.อ.สิทธิศักดิ์ นาคามาตย์ ผกก.สส.2 บก.สส.บช.น. , พ.ต.ท ณัฐวุฒิ สีเสมอ , พ.ต.ท.นิติกรณ์ ระวัง รอง ผกก.สส.2 บก.สส.บช.น. สั่งการให้ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ต.สมพร คำเกตุ สว.กก.สส.2 บก.สส.บช.น. พร้อมชุดปฏิบัติการที่ 4 ดำเนินการได้จับกุมตัว
1.นายธนากร อายุ 33 ปีภูมิลำเนา ซ.ศิริเกษม 6 แขวงบางไผ่ เขตบางแค กรุงเทพฯ
2.นายธีรพัฒน์ 32 ปี ภูมิลำเนา หมู่ 1 ต.ระแหง อ.ลาดหลุมแก้ว จว.ปทุมธานี
.
พร้อมด้วยของกลาง
1.อาวุธปืน ( ประดิษฐ์ ดัดแปลงลำกล้อง ) ขนาด 9 มม. จำนวน 1 กระบอก
2.ซองกระสุน จำนวน 1 ซอง
3.กล่องใส่อาวุธปืนของกลาง จำนวน 1 กล่อง
.
โดยแจ้งข้อกล่าวหาผู้ถูกจับกุมว่า “ร่วมกันจำหน่ายอาวุธปืน โดยไม่ได้รับอนุญาต, ร่วมกันมีอาวุธปืนไว้ในความครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และร่วมกันพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะ โดยไม่มีเหตุอันควร”
.
พฤติการณ์แห่งคดี ก่อนทำการจับกุมเจ้าพนักงานตำรวจ กก.สส.2 บก.สส.บช.น. ได้ลาดตระเวนออนไลน์สืบสวนหาข่าว เพื่อจับกุมผู้กระทำความผิดที่ลักลอบจำหน่ายอาวุธปืนเครื่องกระสุนปืน โดยใช้สื่อโซเชียลเป็นช่องทางในการติดต่อ ซึ่งเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.อาวุธปืน ฯ ตามคำสั่งของผู้การจ๋อ จากการสืบสวนและได้รับแจ้งจากสายลับให้ข้อมูลว่านายธนากร ใช้บัญชีเฟซบุ๊ก ในการขายอาวุธปืนฯ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้ออกสืบสวนติดตามเรื่อยมา จน พ.ต.ต.สมพร คำเกตุ สว.กก.สส.2ฯ ได้มีสายลับเข้ามาพบและแจ้งว่า นายธนากรฯ ผู้ใช้บัญชีเฟซบุ๊ก ได้เสนอขาย อาวุธปืน ( ประดิษฐ์ ดัดแปลงลำกล้อง ) ขนาด 9 มม.ในราคา 15,000 บาท โดยนัดหมายให้มารับบริเวณหน้าอำเภอลาดหลุมแก้ว ริมถนนปทุมธานี-บางเลน ต.ระแหง อ.ลาดหลุมแก้ว จว.ปทุมธานี พ.ต.ต.สมพรฯ จึงรายงานให้กับผู้บังคับบัญชาทราบเพื่ออนุมัติในการล่อซื้อจับกุมผู้กระทำความผิด และได้มอบหมายให้ เจ้าพนักงานตำรวจ กก.สส.2 บก.สส.บช.น. ได้วางแผนการล่อซื้อเพื่อทำการจับกุมผู้กระทำความผิด
.
ต่อมาจึงได้ออกเดินทาง โดย พ.ต.ต.สมพรฯมอบหมายให้เจ้าพนักงานตำรวจนั่งเป็นผู้ขับขี่รถยนต์ไปกับสายลับเพื่อไปทำการล่อซื้ออาวุธจากนายธนากรฯ ต่อมาประมาณ 17.15 น.เมื่อเจ้าพนักงานตำรวจเดินทางไปถึงหน้าที่ว่าการอำเภอลาดหลุมแก้ว นายธนากรฯได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจและสายลับว่า อาวุธปืนที่ได้ทำการติดต่อซื้อขาย นายธนากรฯ ได้ฝากไว้กับเพื่อน จึงได้นำทางเจ้าหน้าที่ตำรวจและสายลับไปยังภายในถนนทางเข้าหมู่บ้านภัทรรมย์ 2,3 (สภานที่จับกุม) ซึ่งเพื่อนของนายธนากรฯ ได้จอดรถรออยู่ ซึ่งมีนายธีรพัฒน์ นั่งอยู่ในรถยนต์กระบะ ยี่ห้อนิสสัน สีน้ำเงินเข้ม เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเข้าแสดงตัว เพื่อทำการตรวจสอบ เมื่อตรวจสอบแล้วพบ อาวุธปืนตามของกลางดังกล่าวข้างต้น วางอยู่ที่นั่งข้างคนขับ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ทำการตรวจสอบ ได้แสดงทำการจับกุมตัวนายธนากร และนายธีรพัฒน์
.
นายธนากร ได้ให้การว่า ได้เสนอขายอาวุธปืนดังกล่าวจริง โดยเสนอขายในราคา 15,000 บาท และนายธีรพัฒน์ ให้การว่าได้รับฝากอาวุธปืนจากนายธนากรฯ และนายธนากรฯ แจ้งว่าจะมาเอาในเวลาต่อมา แต่ถูกเจ้าหน้าที่แสดงตัวเข้าจับกุมดังกล่าวเสียก่อน
.
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวพร้อมของกลาง ส่ง พงส.สภ.ลาดหลุมแก้ว ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
.
พล.ต.ต.ธีรเดช ฝากเตือนผู้ ซื้อ-ขายปืนออนไลน์ ผิดทั้งผู้ขายและผู้ซื้อ ซื้ออาวุธปืนออนไลน์มีความผิดฐาน “ซื้อ มี ใช้ สั่ง หรือนำเข้า อาวุธปืน หรือเครื่องกระสุนปืน โดยไม่ได้รับอนุญาต” มีโทษจำคุกตั้งแต่ 1-10 ปี และปรับตั้งแต่ 2,000-20,000 บาท ส่วนผู้ขายขายอาวุธปืนออนไลน์มีความผิดฐาน “ทำ ประกอบ มี หรือจำหน่ายอาวุธปืน หรือเครื่องกระสุนปืนสำหรับการค้า โดยไม่ได้รับอนุญาต” มีโทษจำคุกตั้งแต่ 2-20 ปี และปรับตั้งแต่ 4,000-40,000 บาท