ตำรวจทางหลวงกองกำกับการ 1 เปิดปฏิบัติการก้าวสกัดจับขบวนการขนคนต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย
โดยการขับขี่มาด้วยความเร็วสูงและไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนด้านหน้าทั้ง 6 คัน จับกุมต่างด้าวสัญชาติเมียนม่าและคนนำพาได้รวม 95 คน

สืบเนื่องจาก กก.1 บก.ทล.ได้มีการกวดขันจับกุมแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายและผู้นำพา
ในเส้นทางพื้นที่รับผิดชอบซึ่งติดต่อเขตกรุงเทพมหานครอยู่บ่อยครั้ง ภายใต้อำนวยการ พ.ต.อ.เอกนิรุจฒิ์ วันสิริภักดิ์ ผกก.1 บก.ทล. จึงได้สั่งการให้มีการสืบสวนถึงเส้นทางที่มีการลักลอบขนคนต่างด้าวผิดกฎหมายเข้ามาในพื้นที่ชั้นใน โดยให้ เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง ส.ทล.6 กก.1 บก.ทล.(สิงห์บุรี),เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง ส.ทล.4 กก.1 บก.ทล.(นครสวรรค์),เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง ส.ทล.1 กก.๑ บก.ทล.(อยุธยา) และ เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง ส.ทล.2 กก.๑ บก.ทล.(สระบุรี) บูรณาการร่วมกัน สืบสวนในพื้นที่รับผิดชอบ จนกระทั่งวันนี้( 27 มิถุนายน 2567 ) เวลาประมาณ 03.00 น.ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้สำรวจเส้นทางสายเอเชีย ทล.32 พื้นที่ จ.ชัยนาท ได้ตรวจการณ์พบกลุ่มรถยนต์กระบะสีเทา และ สีดำ จำนวน ประมาณ 5 – 6 คัน ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนด้านหน้า ขับขี่มาด้วยความเร็วสูงและมีน้ำหนักที่รถยนต์มากกว่ารถยนต์ปกติและมีผ้าใบปิดที่ด้านท้ายรถลักษณะมีพิรุธและมีเหตุอันควรสงสัย เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงขับขี่ติดตามไปอย่างกระชั้นชิด โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ส่งสัญญาณไฟกระพริบสีแดงและใช้สัญญาณเสียงรวมถึงการพูดออกคำสั่งผ่านไมโครโฟนเรียกรถยนต์คันดังกล่าวให้หยุดเมื่อกลุ่มรถยนต์เห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง จึงพากันหลบหนีไปตามเส้นทาง จนกระทั่งมาถึง บริเวณ กม.120-119 ขาเข้า ถนนสายเอเซีย ทล.32 ต.หาดอาษา อ.สรรพยา จ.ชัยนาท จึงสามารถหยุดรถทั้ง 6 คันไว้ได้
และเมื่อได้ขอทำการตรวจสอบพบต่างด้าวสัญชาติเมียนม่านอนอัดแน่นมาท้ายกระบะรถมีผ้าใบปิด และนั่งอัดแน่นมาในห้องโดยสาร เบื้องต้นสอบถามผู้ขับขี่ทั้ง 6 คัน รับสารภาพว่านำพาบุคคลต่างด้าว นั่งโดยสารมากับรถยนต์ด้านหน้าและด้านท้ายรถทั้ง 6 คันด้วย เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเชิญทั้งหมดมาตรวจสอบเอกสารอย่างละเอียดอีกครั้งที่ หน่วยบริการตำรวจทางหลวงชัยนาท พบว่าเป็น บุคคลคนต่างด้าวสัญชาติเมียนมาทั้งหมดนับรวมได้ 89 คนและไม่มีหนังสือเดินทางหรือเอกสารใช้แทนหนังสือเดินทางแต่อย่างใดแสดง(ผ่านล่ามแปล) โดยผู้ถูกจับนั่งโดยสารมาในรถยนต์คันดังกล่าว จากการสอบถามผู้ขับขี่รถยนต์ทั้ง 6 คัน ต่างให้การยอมรับว่า เมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2567 เวลาประมาณ 21.00 น.ได้รับการประสานเพื่อนชาวไทย (ไม่ทราบชื่อ-นามสกุลจริง) ให้ไปรับแรงงานต่างด้าว ที่บริเวณ อ.วังเจ้า จ.ตาก เพื่อไปส่งปลายทางที่
จ.สุพรรณบุรี โดยได้ค่าจ้างคันละ 10,000 บาท/ครั้ง และต่างรับว่าได้ขับขี่รถยนต์คันดังกล่าวบรรทุกแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองมาจริง และต่างรู้ดีอยู่แล้วว่าแรงงานต่างด้าวทั้งหมด ไม่มีหนังสือเดินทางหรือเอกสารแทนหนังสือเดินทางใดๆ และยินยอมที่จะนำพามาส่งที่ปลายทาง จนกระทั่งมาถูกตำรวจทางหลวงเรียกตรวจสอบ โดยต่างได้กระทำแบบนี้มาแล้ว 3 – 4 ครั้ง เงินค่าจ้างที่ได้มาจะนำไปเที่ยว และใช้จ่ายต่างๆ ได้สอบถามบุคคลต่างด้าวทั้งหมดผ่านล่ามแปลภาษาเมียนมา ให้การยอมรับว่า ได้ลักลอบเดินทางเข้ามาในประเทศไทยทางช่องทางธรรมชาติ และเดินข้ามมาในพื้นที่ อ.แม่สอด จ.ตาก จะมีคนพาออกมาขึ้นรถที่นำพา เพื่อจะเข้ามาหางานทำในประเทศไทย โดยเสียค่าใช้จ่าย จำนวน 10,000-20,000 บาท เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงแจ้งข้อกล่าวหา ผู้ขับขี่รถยนต์ทั้งหมดข้อหา “รู้ว่าคนต่างด้าวคนใดเข้ามาในราชอาณาจักรโดยฝ่าฝืนกฎหมาย ให้เข้าพักอาศัย ซ่อนเร้น หรือช่วยด้วยประการใด ๆ เพื่อให้คนต่างด้าวนั้นพ้นจากการจับกุม” และบุคคลต่างด้าวทั้งหมดข้อหา “เป็นคนต่างด้าวเดินทางเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต”และควบคุมตัวพร้อมของกลางและนำส่งพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรสรรพยา ภ.จว.ชัยนาท ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
วัน เดือน ปีเกิดเหตุ เมื่อวันที่ 27 มิถุนายน 2567 เวลา 03.30 น.
สถานที่จับกุม/สถานที่เกิดเหตุ
1 บริเวณ กม.120-119 ขาเข้า ถนนสายเอเซีย ทล.32 ต.หาดอาษา อ.สรรพยา จ.ชัยนาท