สมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ครูร้องศูนย์ดำรงธรรม จี้เปิดประชุมวิสามัญ ทวงคืนเงินกองทุน 50 ล้าน

เมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2568 ที่ห้องประชุมทรัพย์สุขสันต์ สหกรณ์ออมทรัพย์ครูเพชรบูรณ์ จำกัด อำเภอเมืองเพชรบูรณ์ จังหวัดเพชรบูรณ์ นายณรงค์ จันทร์เชื้อ ประธานกรรมการสหกรณ์ออมทรัพย์ครูเพชรบูรณ์ จำกัด กล่าวรายงานการประชุมใหญ่วิสามัญ พร้อมคณะกรรมการสหกรณ์ออมทรัพย์ครูฯได้จัดการประชุมใหญ่วิสามัญ โดยมีนายพงศธร ศรีชัย สหกรณ์จังหวัดเพชรบูรณ์ ซึ่งได้รับมอบหมายจากนายกกชัย ฉายรัศมีกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ เป็นประธานกล่าวเปิดงานและร่วมสังเกตการณ์ประชุมดังกล่าว

การประชุมครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากที่แกนนำสมาชิกสหกรณ์ ซึ่งประกอบด้วย นายประดิษฐ์ บุญยอด นายวัชรินทร์ ดีดาร์ นายพงษ์ศักดิ์ พุฒบุตร นายดิเรก สุวรรณฤทธิ์ นายคำรณ คูณแก้ว และนางสารีณีย์ เชื่อมวราศาสตร์ ได้ยื่นเรื่องต่อศูนย์ดำรงธรรมเพื่อเรียกร้องให้เปิดประชุมวิสามัญ โดยมีข้อเรียกร้อง 3 ประเด็นสำคัญ ได้แก่

1. ขอความเห็นชอบอนุมัติงบประมาณค่าใช้จ่ายในการประชุมใหญ่วิสามัญ

2. ขอความเห็นชอบแก้ไขเพิ่มเติมข้อบังคับสหกรณ์

3. ขอความเห็นชอบกำหนดระเบียบสหกรณ์ว่าด้วยการสรรหาและเลือกตั้งคณะผู้ตรวจสอบกิจการสหกรณ์ พ.ศ. 2568

นอกจากนี้ แกนนำยังได้นำเอกสารเข้าแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ สถานีตำรวจภูธรเมืองเพชรบูรณ์ ก่อนหน้านี้เพื่อเป็นหลักฐานยืนยันข้อเรียกร้องทวงคืนเงินกองทุนช่วยเหลือสมาชิกผู้ค้ำประกันเกือบ 50 ล้านบาท ประเด็นสำคัญที่จุดชนวนให้เกิดการประชุมครั้งนี้คือการเรียกร้องให้สหกรณ์ออมทรัพย์ครูคืนเงินกองทุนช่วยเหลือสมาชิกผู้ค้ำประกัน ซึ่งเป็นสมุดบัญชีเล่มสีแดงที่ก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ปี 2548 โดยมีสมาชิก 9509 ราย ลงชื่อสนับสนุนการเรียกร้องนี้ ปัญหาดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากที่สำนักงานสหกรณ์จังหวัดเพชรบูรณ์ ซึ่งเป็นนายทะเบียนสหกรณ์ แจ้งว่าสถานะของกองทุนดังกล่าวเข้าข่ายเป็นการดำเนินการตามพระราชบัญญัติประกันชีวิตและประกันวินาศภัย ทำให้คณะกรรมการสหกรณ์ออมทรัพย์ครูฯ มีมติยกเลิกกองทุนดังกล่าว โดยได้ดำเนินการจ่ายเงินคืนให้สมาชิกบางส่วนไปแล้ว แต่ยังคงมียอดเงินค้างจ่ายอยู่ประมาณ 50 ล้านบาท หรือเฉลี่ยรายละประมาณ 5,000 บาท จำนวน 9509 ราย

กำหนดการคืนเงินและข้อกังวลของสมาชิก คณะกรรมการสหกรณ์แจ้งว่าพร้อมคืนเงินต้นให้สมาชิกตั้งแต่วันที่ 4 เมษายน 2568 เป็นต้นไป และจะดำเนินการจ่ายดอกเบี้ยคืนภายใน 90 วัน เนื่องจากมีปัญหาระบบขัดข้องจากวงเงินจำนวนมาก อย่างไรก็ตาม สมาชิกหลายรายแสดงความไม่พอใจ โดยให้เหตุผลว่าพวกเขาไม่เคยได้รับข้อมูลเกี่ยวกับรายรับ-รายจ่ายของกองทุนนี้ เนื่องจากเงินจากกองทุนไม่เคยถูกรวมอยู่ในระบบเงินออมทรัพย์ของสหกรณ์มาก่อน

นอกจากนี้ สมาชิกยังตั้งคำถามเกี่ยวกับเงินส่วนต่างจากการปล่อยกู้ที่อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 4 ต่อปี ตั้งแต่ปี 2548 ว่าถูกนำไปใช้จ่ายในส่วนใด และเรียกร้องให้มีการตรวจสอบข้อมูลทางการเงินของกองทุนอย่างโปร่งใส

อย่างไรก็ดี การประชุมครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงความไม่พอใจของสมาชิกสหกรณ์ที่ต้องการความชัดเจนเกี่ยวกับเงินกองทุนดังกล่าว และต้องการให้มีการคืนเงินอย่างเป็นธรรมและโปร่งใสโดยเร็วที่สุด

ข่าว ชุลีพร ตาลสุข