เมื่อเวลา 09.30 น.วันที่ 23 ก.พ.ที่ห้องประชุมเทศบาลตำบลหอคำ อ.เมืองบึงกาฬ จ.บึงกาฬ นางสาวนันท์นภัส สืบสัมพันธ์ ผอ.ป.ป.ช.บึงกาฬ นายนราวิชญ์ มาตราช หัวหน้ากลุ่มงานป้องกันการทุจริต และคณะอนุกรรมการพิจารณาอนุญาตให้ดูดทรายประจำจังหวัด (อพด.) ซึ่งประกอบด้วย นายอภิเดช หาญธรรม
ผอ.สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาหนองคาย อัยการจังหวัดบึงกาฬ อุตสาหกรรมจังหวัด โยธาธิการและผังเมือง เจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดบึงกาฬ ผอ.สำนักงานธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ปลัดฝ่ายป้องกันจังหวัดบึงกาฬ ปลัดป้องกันอำเภอเมืองบึงกาฬ ผู้กำกับการ สภ.หอคำ และนายอัมพร ชัยเสนา นายกเทศมนตรีตำบลหอคำ ได้เข้าร่วมประชุมหารือ กรณีร้องเรียนการลักลอบดูดทรายโดยไม่ได้รับอนุญาตและนำเข้าทรายจากประเทศ สปป.ลาว ของ บริษัท ปกรณ์กิจพิทักษ์ จำกัด ที่ดำเนินการดูดทรายอยู่ที่บ้าน โนนยาง หมู่ที่ 5 ต.หอคำ อ.เมืองบึงกาฬ จ.บึงกาฬ
หลังจากมีการประชุมหารือกันเครียดในห้องประชุมแล้ว จึงได้ลงพื้นที่ตรวจสอบท่าทราย
บริษัท ปกรณ์กิจพิทักษ์ จำกัด ที่ตั้งอยู่ริมตลิ่งโขง บ้านโนนยาง หมู่ที่ 5 ต.หอคำ อ.เมืองบึงกาฬ จ.บึงกาฬ ได้พบกับชาย-หญิง คู่หนึ่งอ้างตัวว่าได้รับมอบหมายด้วยวาจาจากทางบริษัท ให้มาเป็นตัวแทนเจรจากับทางเจ้าหน้าที่ ซึ่งทั้งคู่ยอมรับว่าพึ่งได้เริ่มขอใบอนุญาตต่างๆ เช่น ใบอนุญาตจากอุตสาหกรรมจังหวัดบึงกาฬและใบอนุญาตทำทางลาดจากเจ้าท่าจังหวัดหนองคาย แต่ยังไม่ได้รับใบอนุญาตตามมาตรา 9 จากผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ แต่ได้ทดสอบดูดทรายไปก่อน ซึ่ง จนท.แจ้งว่ายังไม่สามารถดำเนินการได้จนกว่า จะต้องเข้าสู่ขบวนการทั้งหมดให้เรียบร้อยไปก่อน เช่น ผ่านการประชาคมหมู่บ้านจากเทศบาลตำบลหอคำ นำเข้า คณะ อพด.ระดับจังหวัด นำเสนอผ่าน คณะ กพด.ระดับประเทศ เรื่องกลับมาสู่ที่ดินจังหวัดบึงกาฬ แล้วเจ้าของกิจการต้องนำเรื่องไปเสนอขออนุญาตผ่านสำนักป่าไม้ 6 อุดรธานี กลับมาเจ้าท่าหนองคาย ขั้นตอนสุดท้ายฝ่ายวิชาการที่ดินจังหวัดบึงกาฬ ซึ่งเป็นเลขาฯ คณะ อพด.นำเสนอเรื่องให้ ผวจ.บึงกาฬ เซ็นอนุมัติออกใบอนุญาตให้ดูดทรายได้ ซึ่งใบอนุญาตนี้มีอายุ 1 ปี และหากจะดำเนินการดูดทรายต่อไปต้องขอต่อใบอนุญาตใหม่อีกครั้ง
จากการลงพื้นที่ตรวจสอบในครั้งนี้ของ ป.ป.ช.บึงกาฬและคณะคณะอนุกรรมการพิจารณาอนุญาตให้ดูดทรายประจำจังหวัด (อพด.) สรุปได้ว่า การตรวจสอบติดตามเฝ้าระวัง และรวบรวมข้อเท็จจริง กรณีลักลอบดูดทรายและลักลอบนำทรายเข้ามาในราชอาณาจักรไทย โดยไม่ได้รับอนุญาตของ บริษัท ปกรณ์กิจพิทักษ์ จำกัด บ้านโนนยาง หมู่ที่ 5 ตำบลหอคำ อำเภอเมืองบึงกาฬ จังหวัดบึงกาฬ ซึ่งมีพฤติการณ์นำไปจำหน่ายให้กับบริษัทวินซี คอนสตรัคชั่น จำกัด เพื่อก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งริมแม่น้ำโขง โดยมีสำนักงานโยธาธิการและผังเมืองจังหวัดบึงกาฬ เป็นคู่สัญญาการก่อสร้าง อาจเข้าข่ายไม่ปฏิบัติตามระเบียบขั้นตอนของกฎหมาย อันอาจนำไปสู่การทุจริตหรือส่อว่าอาจมีการทุจริต ซึ่งปรากฏข้อเท็จจริง ดังนี้
1. บริษัท ปกรณ์กิจพิทักษ์ จำกัด ดำเนินกิจการลักลอบดูดทรายโดยไม่ได้รับอนุญาตตามความในมาตรา 9 แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน
2. บริษัท ปกรณ์กิจพิทักษ์ จำกัด นำทรายที่ลักลอบดูดทรายเพื่อใช้ในการก่อสร้างโครงการของรัฐ โดยมีบริษัท วินซีคอนสตรัคชั่น จำกัด นำมาใช้ในโครงการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งริมแม่น้ำโขง ซึ่งมีสำนักงานโยธาธิการและผังเมืองจังหวัดบึงกาฬเป็นคู่สัญญาการก่อสร้าง เบื้องต้นโยธาธิการและผังเมืองจังหวัดบึงกาฬ ได้มอบหมายให้พนักงานเจ้าหน้าที่ผู้ควบคุมงานลงพื้นที่ตรวจสอบ และแจ้งผู้รับจ้างยุติระงับการดำเนินงานก่อสร้างไว้ เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2567 เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อนดำเนินงานต่อไป
3. ผู้ประกอบการ บริษัท ปกรณ์กิจพิทักษ์ จำกัด อ้างว่าตนได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการโรงงาน จากสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดบึงกาฬ เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2566 และใบอนุญาตขุดลอกร่องน้ำทางเรือเดิน จากสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค สาขาหนองคาย เมื่อวันที่ 27 ตุลาคม 2566 จึงเริ่มดำเนินการประกอบกิจการดูดทราย และนำเข้าทรายมาในราชอาณาจักรไทยโดยใช้เรือขนทราย
จากการตรวจสอบ สำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดบึงกาฬ ได้ให้ข้อเสนอแนะกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการบังคับใช้กฎหมาย ดังนี้
1. แจ้งให้เทศบาลตำบลหอคำ ซึ่งเป็นผู้ดูแลรักษาและคุ้มครองป้องกันที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินที่ประชาชนใช้ประโยชน์ร่วมกัน ตาม พ.ร.บ.ลักษณะปกครองท้องที่ พ.ศ. 2475 ดำเนินการแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ประกอบกิจการ บริษัท ปกรณ์กิจพิทักษ์ จำกัด ความผิดฐานบุกรุกที่ดินสาธารณะ เนื่องจากประกอบกิจการโดยไม่มีใบอนุญาตตามความในมาตรา 9 แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน (ท.ด.69 ก) และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง
2. แจ้งให้สำนักงานที่ดินจังหวัดบึงกาฬ ในฐานะอนุกรรมการและเลขานุการ คณะอนุกรรมการพิจารณาอนุญาตให้ดูดทรายประจำจังหวัดบึงกาฬ (อพด.จ.บึงกาฬ) เสนอต่อคณะอนุกรรมการฯ เพื่อนำเสนอคณะกรรมการพิจารณาอนุญาตให้ดูดทราย (กพด.) เพิกถอนมติอนุญาตให้ประกอบกิจการท่าทรายปกรณ์กิจ เนื่องจากไม่ขอใบอนุญาตตามความในมาตรา 9 แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน (ท.ด.69 ก) ให้ถูกต้องก่อนดำเนินประกอบกิจการ
3. แจ้งให้สถานีตำรวจภูธรหอคำ ประสานกับสำนักงานอัยการจังหวัดบึงกาฬ หลังได้รับแจ้งความเพื่อพิจารณาสอบสวน รวมถึงจัดทำสมุดยึดทรัพย์ของกลาง ตลอดจนหารือข้อกฎหมายกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาทิ เช่น สำนักงานที่ดินจังหวัดบึงกาฬ สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาหนองคาย สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดบึงกาฬ สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดบึงกาฬ เพื่อพิจารณาดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ต่อไป.
ณัฏฐ์ณฐพรหม ข่าวภาค4//บึงกาฬ