แม้ฝนจะตกเพียงน้อยนิด แต่น้ำโขงยังหนุนสูงตลอด ทำให้น้ำในแม่น้ำโขงยังไหลหลากเข้าท่วมทุ่งนาตลอด ถนนหลายสายตามหมู่บ้านสัญจรไปมาไม่ได้ หน่วยงานภาครัฐต้องออกไปช่วยเหลือนำข้าวสารอาหารแห้งน้ำดื่มไปแจกจ่าย ล่าสุดที่จุดวัดระดับน้ำที่บ้านพันลำวัดระดับน้ำได้ 12.38 เมตร เหลืออีก 1.62 เมตร จะถึงจุดวิกฤติสีแดงคือ 14 เมตรน้ำจะล้นตลิ่ง
เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 28 ส.ค.ชุดบรรเทาสาธารณภัย หน่วยรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง หรือ ชบภ.นรข.เขตหนองคาย นำโดย น.ท.ธนชัย รอดทัศนา ผบ.หมู่เรือที่ 2 และ รรก.หน.สน.เรือบึงกาฬ พร้อมชุด ชบภ.สน.เรือบึงกาฬ จำนวน 12 นาย นำโดย ร.ท.ไชยา เนียมแสง ผู้ควบคุมเรือฯ ร่วมกับฝ่ายปกครองอำเภอเมืองบึงกาฬ นายทวี จิตวิขาม นายกเทศมนตรีตำบลไคสี นายชยพล โพธิสว่าง กำนัน ต.ไคสี และผู้นำหมู่บ้านตำบลไคสี อ.เมืองบึงกาฬ นำข้าวสาร อาหารแห้ง เช่น ปลากระบ๋อง มาม่า ไข่น้ำดื่ม และเครื่องยังชีพ บรรทุกลงเรือทองแบน 2 ลำและรถยนต์ เข้าให้ความช่วยเหลือครอบครัว นายสมพงษ์ อินทะนะ บ้านเลขที่ 132 หมู่ที่ 2 บ้านดอนยม ต.ไคสี อ.เมืองบึงกาฬ จ.บึงกาฬ ที่ได้รับความเดือดร้อนจากอุทกภัยน้ำท่วมบ้าน เหตุน้ำโขงล้นตลิ่ง ถนนถูกตัดขาดการสัญจรไปมาไม่สะดวก เนื่องจากออกไปปลูกบ้านอยู่กลางทุ่งนาห่างจากหมู่บ้านประมาณ 1.5 กิโลเมตร ต้องได้นำสัตว์เลี้ยง เช่น เป็ด ไก่ วัว ไปฝากเลี้ยงอยู่ในสวนยางพาราเพื่อนบ้าน ซึ่งเป็นที่สูง
นายทวี จิตวิขาม นายก ทต.ไคสี กล่าวว่า ฝนในพื้นที่บึงกาฬก็ตกลงมาเพียงเล็กน้อย แต่น้ำที่ขึ้นมาท่วมตามถนนในหมู่บ้านและที่นาที่สวนของชาวบ้านเกิดจากน้ำโขงไหลมาหนุนสูง เช่นทางกลับรถใต้สะพานอาฮง ถนนสาย 212 ไป อ.ปากคาด บ้านอาฮง นั้น น้ำก็ท่วมไม่สามารถกลับรถได้ เช่นเดียวกันกับใต้สะพานบ้านคำหมื่น น้ำก็เริ่มขึ้นมาสูง แต่ถนนหลักไป อ.ปากคาดหรือไปหนองคายยังวิ่งได้สบาย ส่วนที่การเกษตร ก็มีท่วมเยอะเลยคือ นาข้าว 2,300 ไร่ ปาล์มน้ำมัน 110 ไร่ สวนยางพารา 244 ไร่ ท่วมมาแล้ว 7 วัน กลัวแต่ข้าวจะตายน้ำ ส่วนปาล์มและยางคงไม่ตายหรอก
ส่วนที่จุดวัดระดับน้ำบ้านพันลำ ต.บึงกาฬ วัดระดับน้ำได้ 12.38 เมตร ยังไม่ถึงจุดอันตรายคือ 14.00 เมตรหรือ 1.62 เมตร หรือจุดวิกฤต จะต้องอพยพขึ้นที่สูง หมายความว่าถ้าถึง 14 เมตรในเขตบึงกาฬ แสดงว่าน้ำล้นตลิ่งแม่น้ำโขงแล้ว.
ณฐพรหม อิทธิพัทธ์พล//บึงกาฬ ทีมข่าว-รายงาน