วันที่ 18 มกราคม 2567 กองพลทหารม้าที่ 1 ได้มีพิธีถวายสัตย์ปฏิญาณตนต่อธงชัยเฉลิมพล เนื่องในวันกองทัพไทยประจำปีพุทธศักราช 2567 ณ.สนามหน้าแหล่งสมาคมนายทหารค่ายพ่อขุนผาเมือง อำเภอเมืองจังหวัดเพชรบูรณ์
เวลา 15:30 น พล.ต.ประพัฒน์ พบสุวรรณ ผู้บัญชาการกองพลทหารม้าที่ 1 ได้เดินทางมาถึงบริเวณสนามหน้าแหล่งสมาคมนายทหาร ค่ายพ่อขุนผาเมือง เพื่อกระทำพิธีถวายสัตย์ปฏิญาณตนต่อธงชัยเฉลิมพล เนื่องในวันกองทัพไทยประจำปี 2567 แล้วได้มีการนำธงชัยเฉลิมพลที่ได้รับพระราชทานให้แต่ละหน่วยทำพิธีเดินสวนสนามและนำธงชัยเฉลิมพลขึ้นมาที่ปรัมพิธี เพื่อทำพิธีทางศาสนาพุทธโดยมีการนิมนต์พระจากวัดสนธิกร มาทำพิธี และได้มีการประพรมน้ำมนต์เหล่าทหารที่มาร่วมพิธีถวายสัตย์ต่อธงชัยเฉลิมพล และขบวนรถที่มาร่วมงานในวันนี้
พิธีกระท่าสัตย์ปฏิญาณตนต่อธงขัยเฉลิมพลและสวนสนามเดิมนั้น กระทำในวันที่ 18 มกราคมของทุกปีเนื่องจากเชื่อว่า วันดังกล่าวเป็นวันกองทัพ
ไทย โดยถือเอาวันกระทายุทธหัตถีของสมเด็จพระ
นเรศวรมหาราชต่อมานักประวัติศาสตร์ได้ตรวจสอบ
อีกครั้งและพบว่า วันกระทำยุทธหั้ตถีนั้น ตรงกับวันที่ 18 มกราคม พุทธศักราช2135 และในห้วงเดือนมกราคมของทุกปีนั้น ทหารใหม่ได้เสร็จสิ้นการฝึกตามระเบียบหลักสูตร พร้อมที่จะปฏิบัติภรกิจให้กับกองทัพบกเพื่อรับใช้ประเทศชาติ แลประชาชน/nใน พิธีกระทำสัตย์ปฏิญาณต่อธงชัยเฉลิมพล เปรียบเหมือนดังการพิธีดื่มน้าพิพัฒน์สัตยาของทหารในอดีต โดยทหารกองประจำการ และกำลังพลบรรจุใหม่ทุกนาย ที่ได้สาบานตนต่อธงชัยเฉลิมพล ซึ่งเป็นธงประจ ำหน่วยทหาร ทั้งทหารบก
ทหารเรือ และ ทหารอากาศ อันได้รับพระราชทานจาก พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เหตุนี้แล้ว ธงขัยเฉลิมพล จึงนับว่าเป็นเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์สูงสุดของทหารเป็นเกี่ยรติยศของหน่วยทหารที่ได้รับพระราชทานธงชัยเฉลิมพล ซึ่งหากเมื่อปฏิญาณตนต่อธงชัยเฉลิมพลแล้ว จะต้องยึดมั่นในอุดมการณ์ทหาร และพิทักษ์ไว้ซึ่งสถาบันชาติ ศาสนา พระมหา
กษัตริย์ และด ารงความมั่งคงของชาติ ความผาสุกของประชาชน ไว้ด้วยชีวิต/ท/”ทหาร!” นั้นมีหน้าที่พิทักษ์ ปกป้องรักษาแผ่นดิน และบ้านเมืองให้เกิดความสงบสุขร่มเย็น ซึ่งในประเทศไทยแต่โบราณ มี
พระมหากษัตริย์ผู้ซึ่งเป็นนักรบ และน้ำเหล่าทหารกล้า ออกไปสู้กับเหล่าข้าศึกศัตรูอย่างไม่กลัวเกรงพร้อมยอมพลี้ชีพและปกป้องผืนดินไทย เหล่าทหาร
จึงเป็นกำลังสำคัญในการป้องกันประเทศชาติจากการรุกรานของอริราชศัตรู แม้แต่ในยามสงบทหารยังต้องมีหน้าที่สำคัญในการพัฒนาประเทศชาติให้มี
ความเจริญรุ่งเรื่องสืบไป การปฏิญาณตนต่อธงชัยเฉลิมพล จึงเป็นการให้คำมั่นสัญญา ว่าจะพิทักษ์ปกป้องสถาบันหลัก คือ ชาติ ศาสนา และ สถาบัน
พระมหากษัตริย์ ให้ดำรงอยู่อย่างวัฒนาถาวรสืบไปเทวันที่ 18 มกราคม ของทุกปีถือเป็น วันกองทัพไทย|” และ (“วันกองทัพบก!” เพราะเป็นวันที่สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ทรงทำยุทธหัตถีกับข้าศึก โดยเอาชนะพระมหาอุปราชา ซึ่งตรงกับแรม
พุทธศักราช 2135 เหตุนี้ จึงได้ได้ก าหนดให้มีการจัดงาน “วันกองทัพไทย|” เพื่อร าลึกถึงเหล่าทหารกล้า ผู้อุทิศชีวิตในสมรภูมิรบเพื่อประเทศชาติ ในสมัยรัฐบาล จอมพล สฤษดิ์ ธนะรัชต์ได้กำหนดให้วันที่ 8 เมษายน เป็น /”วันกองทัพไทย1″ และยังเป็นวันคล้ายวันสถาปนากระทรวงกลาโหม่เป็นวันที่มีกาปรับปรุงการทหาร จากการจัดอัตรากำลังแบบโบราณ มาเป็นการจัดอัตรากำลังแบบปัจจุบันครั้นเมื่อสมัย พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ดำรงตำ แหน่งนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ในพุทธศักราช
2523เห็นว่า /”วันกองทัพไทย!” ควรเป็นวันที่สำคัญ
ทางประวัติศาสตร์ ที่แสดงถึงความ กล้าหาญและเสียสละปันวันที่มีความสำคัญและมีความหมายยิงสำหรับทหารทั่ง 3 เหล่าทัพ จึงได้กำหนดเอาวันที
สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ทรงกระทำยุทธหัตถีได้รับชัยชนะเหนือพระมหาอุปราชาเป็น \”วันกองทัพไทย|” ซึ่งในขณะนั้นกำหนดเป็นวันที่ 25 มกราคม
ของทุกปี ต่อมาเมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2539(พล.ต.ต.สุชาติ เผือกสกนธ์) อดีตอธิบดีกรม
ไปรษณีย์โทรเลข ได้มีหนังสือพร้อมข้อมูลของ I”วันกองทัพไทย|” เสนอไปที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ให้ทำการเปลี่ยนแปลงวันกองทัพไทย ด้วย
เหตุที่ได้ศึกษาเรื่องนี้ และได้พบความคลาดเคลื่อนของวันที่ สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ทรงกระทำยุทธหัตถึ จึงขอให้พิจารณาแก้ไขวันสาคัญทาง
ประวัติศาสตร์ของชาติไทย ให้ถูกต้อง จึงกาหนดวันกองทัพไทยจากเดิม วันที่ 25 มกราคม ให้เป็นวันที่18 มกราคมของทุกปี มาจนปัจจุบัน