มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ในพระบรมราชูปถัมภ์ ประจำจังหวัดเพชรบูรณ์ มอบสิ่งของพระราชทาน ช่วยเหลือผู้ประสบอัคคีภัยในพื้นที่จังหวัดเพชรบูรณ์

 วันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา 14.00 น. นายศรัณยู มีทองคำ ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ ในฐานะประธานกรรมการมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ประจำจังหวัดเพชรบูรณ์ นำสิ่งของพระราชทาน ในมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ มามอบให้ประชาชนผู้ประสบอัคคีภัย จำนวน 22 ราย ในพื้นที่ 7 อำเภอ ประกอบด้วย อำเภอชนแดน 6 ราย อำเภอหล่มเก่า 4 ราย อำเภอหนองไผ่ 3 ราย อำเภอวิเชียรบุรี 2 ราย อำเภอบึงสามพัน 1 ราย อำเภอหล่มสัก 1 ราย และ อำเภอเมืองเพชรบูรณ์ 5 ราย โดยมี ผู้ประสบอัคคีภัยในพื้นที่อำเภอเมืองเพชรบูรณ์ และ นายอำเภอผู้แทนผู้ประสบภัย เข้ารับสิ่งของพระราชทาน เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนแก่ผู้ประสบอัคคีภัย และสร้างขวัญกำลังใจ พร้อมด้วย รองผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ ปลัดจังหวัดเพชรบูรณ์ หัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เข้าร่วมพิธี ที่องค์การบริหารส่วนตำบลนาป่า อำเภอเมืองเพชรบูรณ์ จังหวัดเพชรบูรณ์

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงห่วงใยพสกนิกรของพระองค์ท่าน ที่ได้รับความเดือดร้อนจากภัยพิบัติต่าง ๆ จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ในพระบรมราชูปถัมภ์ ประจำจังหวัดเพชรบูรณ์ นำสิ่งของพระราชทานมาให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอัคคีภัย ตามหลักเกณฑ์การพิจารณาการจ่ายเงินสำรองจ่าย ซึ่งมูลนิธิราชประชานุเคราะห์นั้น พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ก่อตั้งเป็น มูลนิธิ เพื่อดำเนินงานด้านการสงเคราะห์ช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัยทั่วประเทศ ทรงวางรากฐานการดำเนินงานของมูลนิธิไว้ และพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระราชปณิธานอย่างแน่วแน่ ที่จะสืบสาน รักษา ต่อยอด ในการดำเนินงานของมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ เพื่อให้การช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบสาธารณภัย เป็นไปอย่างต่อเนื่อง

สำหรับการช่วยเหลือด้านอื่นๆ นั้น คณะสงฆ์จังหวัดเพชรบูรณ์ได้มอบสิ่งของช่วยเหลือ สาธารณสุขจังหวัดเพชรบูรณ์ มอบชุดยาสามัญประจำบ้านพระราชทาน จากมูลนิธิแพทย์อาสาสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี เหล่ากาชาดจังหวัดเพชรบูรณ์มอบชุดธารน้ำใจสภากาขาดไทย และ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์มอบเงินช่วยเหลือผู้ประสบปัญหาทางสังคมกรณีฉุกเฉินแก่ผู้ประสบอัคคีภัย โดยผู้ประสบอัคคีภัยทุกราย อำเภอและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ได้สำรวจและรายงานความเสียหายพิจารณาดำเนินการให้ความช่วยเหลือตามระเบียบราชการ