เมื่อ 3 ส.ค.67, 21.35 น. (เวลาประเทศไทย) มีการแข่งขันมวยสากลหญิง รอบก่อนรองชนะเลิศ(8คนสุดท้าย) ในกีฬาโอลิมปิกเกมส์ 2024 ณ กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส 2คู่ได้แก่จุฑามาศ รักสัตย์ รุ่น 50 กิโลกรัมกับนักชกประเทศจีน และจันทร์แจ่ม สุวรรณเพ็ง รุ่น 66 กิโลกรัมกับนักชกประเทศตุรกี ณ สนาม North Paris Arena

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ประธานคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ พร้อมด้วย นายธนาไชยประสิทธิ์ รองประธานฯและหัวหน้านักกีฬา, พล.อ.คณิต สาพิทักษ์ และพล.อ.ณัฐ อินทรเจริญ ได้เดินทางเข้าร่วมชมการแข่งขันกีฬาชกมวยสากล(หญิง) เพื่อให้กำลังใจนักชกของไทยทั้ง 2คน อย่างใจจดใจจ่อ เนื่องจากเป็นกีฬาประเภทการต่อสู้ที่ ทัพนักกีฬาไทย มีความหวังจะได้เหรียญทุกครั้ง โดยต้องใช้พละกำลัง และมีหัวใจนักสู้ ซึ่ง พล.อ.ประวิตร ได้ส่งเสียงเชียร์ และปรบมือในจังหวะสำคัญของการออกอาวุธ อย่างดุเดือด ตื่นเต้น เพราะหากนักชกไทยสามารถเอาชนะคู่ต่อสู้ได้ จะได้รับเหรียญทองแดง ตามกฎกีฬาโอลิมปิกทันที ซึ่งทัพนักชกไทยก็ไม่ทำให้ผิดหวัง สามารถทำผลงานได้ตามเป้า เอาชนะคู่ต่อสู้ในรุ่น 66 กิโลกรัม คือจันทร์แจ่ม สุวรรณเพ็ง ทะลุเข้าสู่รอบตัดเชือกชิงเหรียญทอง ได้อย่างน่าชื่นชม และภาคภูมิใจยิ่ง

ภายหลังการแข่งขัน พล.อ.ประวิตร ได้พบกับนักชก พร้อมกล่าวแสดงความยินดี และขอบคุณแทนคนไทยทั้งประเทศ ที่ทำให้คนไทยมีความสุขในวันนี้ และตนเองก็มีความรู้สึกชื่นชม ดีใจและมีความภาคภูมิใจที่นักชกหญิงไทย ได้ทุ่มเทจากการฝึกซ้อม และมุ่งมั่นแข่งขันจนประสบชัยชนะ ได้เข้ารอบและได้สิทธิ์รับเหรียญทองแดงแล้ว 1คน ในครั้งนี้ นับเป็นความสำเร็จอย่างยิ่ง ที่มีนักชกไทยได้สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศชาติ และคนไทยทั้งประเทศ และขอขอบคุณสมาคมมวยสากลฯ ที่ได้ดำเนินการเตรียมความพร้อมตามนโยบายของโอลิมปิกฯมาด้วยดี และขอเป็นกำลังใจให้กับนักชก พร้อมด้วยทีมสตาฟโค้ช ที่จะต้องแข่งขันในแมตช์ต่อไป ให้สามารถคว้าชัยชนะอีก2ครั้ง และได้รับเหรียญทองตามเป้าที่ตั้งไว้ พร้อมขอบคุณประชาชนคนไทยทั่วประเทศ ที่ได้ร่วมกันเชียร์ ส่งกำลังใจมายังนักชกทีมชาติไทย ในครั้งนี้ด้วย และขอให้คนไทยช่วยกันส่งเสียงเชียร์ดังๆ ผ่านหน้าจอทีวี
ให้ จันทร์แจ่ม สุวรรณเพ็ง หนึ่งเดียวของไทย ที่ทำผลงานสำเร็จ สามารถคว้าเหรียญทองให้กับคนไทยได้ชื่นชมเหมือนเช่นในอดีต ที่ผ่านมาได้อีกครั้งหนึ่ง