“จาย อังค์สุธาสาวิทย์” ร่างกายฟิตเต็มร้อย พร้อมสู้ศึกจักรยานประเภทลู่ “ยูซีไอ เนชั่นส์ คัพ” สนามที่ 1 ที่ออสเตรเลีย วันที่ 2-4 ก.พ.67 เพื่อเก็บคะแนนสะสมคัดเลือกโอลิมปิกเกมส์ 2024 ที่ฝรั่งเศส โดย “จาย” ตั้งเป้าหมายว่าในรายการคีริน ซึ่งเป็นรายการที่ตัวเองถนัด จะต้องผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศเป็นอย่างน้อย แต่ก็ต้องเจอศึกหนักพบคู่แข่งระดับพระกาฬทั้งจากญี่ปุ่น, มาเลเซีย และโคลอมเบีย ที่มีดีกรีเป็นถึงอดีตแชมป์โลก หาก “จาย” สามารถทำได้ตามเป้าก็มีโอกาสาสูงที่จะสร้างประวัติศาสตร์ผ่านไปชิงชัยใน “ปารีสเกมส์” และมีนักกีฬาจักรยานไทยได้โควตาโอลิมปิกเกมส์ มากถึง 5 คน จากประเภทถนน บีเอ็มเอ็กซ์ และลู่
“เสธ.หมึก” พลเอกเดชา เหมกระศรี ประธานสหพันธ์จักรยานแห่งอาเซียน (เอซีเอฟ) และนายกสมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เปิดเผยว่า หลังจากที่สมาคมกีฬาจักรยานฯ ได้โควตานักกีฬาไปแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเกมส์ 2024 “ปารีสเกมส์” ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส จำนวน 4 ที่นั่ง แบ่งเป็นประเภทถนน 3 ที่นั่ง ประกอบด้วย รายการไทม์ไทรอัลบุคคลหญิง, โรดเรซชาย และ โรดเรซหญิง นอกจากนั้นยังได้โควตาบีเอ็มเอ็กซ์เรซซิ่งอีก 1 ที่นั่ง จากการที่ “เอ้” ส.ท.โกเมธ สุขประเสริฐ คว้าแชมป์บีเอ็มเอ็กซ์เอเชีย 2023 อย่างไรก็ตาม สมาคมกีฬาจักรยานฯ ยังลุ้นโควตาโอลิมปิกเกมส์ในประเภทลู่อีก 1 ที่นั่ง จาก “ทีเจ” จาย อังค์สุธาสาวิทย์ นักปั่นทีมชาติไทยเจ้าของเหรียญทองประวัติศาสตร์รายการคีรินชายในศึกเอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 18 ที่ประเทศอินโดนีเซีย
พลเอกเดชา กล่าวว่า สำหรับ จาย มีคิวแข่งขันจักรยานประเภทลู่ 4 สนามใหญ่ เพื่อเก็บคะแนนสะสมโอลิมปิกเกมส์เพิ่มเติมในช่วงโค้งสุดท้าย ประกอบด้วย “ยูซีไอ เนชั่นส์ คัพ” จำนวน 3 สนาม ดังนี้ สนาม 1 ที่ประเทศออสเตรเลีย วันที่ 2-4 กุมภาพันธ์, สนาม 2 ที่เขตบริหารพิเศษฮ่องกง วันที่ 15-17 มีนาคม และสนาม 3 ที่ประเทศแคนาดา วันที่ 12-14 เมษายน ส่วนอีก 1 รายการ คือการแข่งขันจักรยานประเภทลู่ ชิงแชมป์เอเชีย 2024 ที่ประเทศอินเดีย วันที่ 20-26 กุมภาพันธ์ ขณะนี้จายฝึกซ้อมอย่างหนักอยู่ที่ศูนย์ฝึกจักรยานโลก (WCC) ที่เมืองเอเกิล ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ล่าสุด จายมีสภาพร่างกายที่ฟิตสมบูรณ์เต็มน้อย และมีความพร้อมอย่างเต็มที่ในการเตรียมสู้ศึก “ยูซีไอ เนชั่นส์ คัพ” สนาม 1 ที่เมืองอดีเลด ประเทศออสเตรเลีย
พลเอกเดชา กล่าวอีกว่า จากกำหนดการแข่งขันที่สหพันธ์จักรยานนานาชาติ (ยูซีไอ) ประกาศออกมาเมื่อสัปดาห์ก่อน จะเปิดให้นักกีฬาลงฝึกซ้อมในสนามแข่งขันเวลโลโดรมอดีเลด เพียง 2 วัน คือวันที่ 31 มกราคม และ 1 กุมภาพันธ์ โดยจายจะมีโอกาสลงฝึกซ้อมวันแรกในช่วงค่ำ และวันที่สองในช่วงบ่าย แต่ก็ไม่เป็นปัญหาสำหรับการปรับตัวเนื่องจากเป็นเวลโลโดรมที่จายคุ้นเคยมาตั้งแต่เป็นนักกีฬาเยาวชนของประเทศออสเตรเลีย ส่วนโปรแกรมการแข่งขันของจาย จะลงแข่งขัน 2 รายการ ประกอบด้วย สปรินท์ และคีริน โดยจะลงแข่งขันรายการคีรินรอบแรกในช่วงบ่ายวันเสาร์ที่ 3 กุมภาพันธ์ ต่อเนื่องไปจนถึงรอบรองชนะเลิศและรอบชิงชนะเลิศ ในช่วงค่ำของวันเดียวกัน ส่วนรายการสปรินท์จะแข่งขันรอบคัดเลือกในการแข่งขันช่วงเช้าวันอาทิตย์ที่ 4 กุมภาพันธ์ และหากเข้ารอบก็จะแข่งขันต่อเนื่องไปจนถึงรอบชิงชนะเลิศในภาคบ่าย
“การที่ยูซีไอกำหนดโปรแกรมแบบนี้ เป็นผลดีในเชิงกลยุทธ์การแข่งขันของจาย เนื่องจากรายการคีริน ที่เป็นรายการถนัดของจาย และมีคะแนนสะสมคัดเลือกโอลิมปิกเกมส์ 2024 อยู่ในเกณฑ์ได้ลุ้นผ่านควอลิฟายจะทำการแข่งขันก่อน ทำให้ไม่ส่งผลกระทบต่อสภาพร่างกายและสภาพจิตใจที่มีความสดเต็มที่ ไม่ต้องทุ่มพลังแข่งขันในรายการสปรินท์ ต้องยอมรับว่าในการแข่งขันเนชั่นส์คัพ สนามที่ 1 นี้ จายต้องเจอกับศึกหนักจากคู่แข่งระดับโลก ไม่ว่าจะเป็นญี่ปุ่น ที่ส่งนักกีฬามาแข่งขัน 2 ทีม รวม 4 คน นำโดย ชินจิ นากาโน มืออันดับ 4 ของโลก ด้านมาเลเซีย ก็ส่งมา 2 ทีม 4 คนเช่นเดียวกัน นำโดย อาวัง อาซิซุล มืออันดับ 5 ของโลก ส่วนโคลอมเบีย ก็ส่ง ซานติอาโก ควินตาโร่ มืออันดับ 3 ของโลก ที่มีดีกรีเป็นถึงอดีตแชมป์โลกเป็นผู้นำทีมมา ซึ่งการแข่งขันประเภทคีรินชาย สนามแรกนี้ มีนักปั่นลงทะเบียนแข่งขันมากถึง 42 คน นับเป็นจำนวนมากที่สุดในประวัติศาสตร์การแข่งขันยูซีไอ แทร็ค เนชั่นส์คัพ” พลเอกเดชา กล่าว
พลเอกเดชา กล่าวเพิ่มเติมว่า แม้ว่าคู่ต่อสู้ของจายจะมีจำนวนมาก และบางชาติมีถึง 4 คน แต่จายยังตั้งเป้าหมายสำหรับเนชั่นส์คัพเอาไว้ว่าต้องเข้ารอบรองชนะเลิศ หรือรอบ 12 คนสุดท้าย ซึ่งคนที่ได้อันดับ 12 จะมีคะแนนสะสมสำหรับคัดเลือกโอลิมปิกมากถึง 304 คะแนนเป็นอย่างน้อย ซึ่งหากจายสามารถทำได้ตามเป้าหมายที่ตั้งเอาไว้ โอกาสที่จะผ่านควอลิฟายโอลิมปิกเกมส์ 2024 ก็จะสดใส และจายยังมีโอกาสเก็บคะแนนเพิ่มอย่างเป็นกอบเป็นกำอีกในการแข่งขันจักรยานประเภทลู่ชิงแชมป์เอเชีย 2024 ที่ประเทศอินเดีย ซึ่งหากทั้ง 2 รายการดังกล่าว คะแนนสะสมคัดเลือกคีรินกีฬาโอลิมปิกเกมส์ของประเทศไทยสามารถขยับจากอันดับ 13 ในปัจจุบัน สูงขึ้นไปอีก ก็จะสามารถการันตีได้ทันทีว่าประเทศไทยจะมีนักกีฬาผ่านคัดเลือกนักกีฬาประเภทลู่ไปชิงชัยใน “ปารีสเกมส์” และมีนักกีฬาจักรยานได้โควตาโอลิมปิกเกมส์ มากถึง 5 คน ใน 3 ประเภทกีฬาจักรยานเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์.